ปัจจุบันแบตเตอรี่ Li-ion (Lithium-ion) เป็นที่นิยมใช้ในเครื่องมือช่างต่างๆ เนื่องจากมีประสิทธิภาพสูงและน้ำหนักเบา แต่การดูแลรักษาแบตเตอรี่ประเภทนี้อย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญเพื่อยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพของเครื่องมือ มาทำความเข้าใจวิธีการดูแลรักษาแบตเตอรี่ Li-ion กันเถอะ
1. หลีกเลี่ยงการชาร์จจนเต็มหรือจนหมด
การชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% หรือปล่อยให้แบตเตอรี่หมดเกลี้ยงอาจทำให้เกิดการเสื่อมสภาพเร็วขึ้น ควรชาร์จแบตเตอรี่เมื่อมีพลังงานเหลือประมาณ 20-30% และหยุดชาร์จเมื่อถึง 80-90% เพื่อรักษาสภาพของแบตเตอรี่ให้ดีอยู่เสมอ โดยดูจากแท่นชาร์จของทางมูราต้า จะมีไฟสีแดงและเขียวที่ตัวแท่น หากชาร์จเต็มแล้วจะเปลี่ยนจากแดง เป็นเขียว ให้นำแบตเตอรี่ออกจากแท่นชาร์จทันที ไม่ควรทิ้งไว้ข้ามคืน
2. เก็บรักษาในสภาพแวดล้อมที่เหมาะสม
การเก็บแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิสูงหรือต่ำเกินไปอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพได้ ควรเก็บแบตเตอรี่ในที่ที่มีอุณหภูมิประมาณ 20-25 องศาเซลเซียส และหลีกเลี่ยงการเก็บในที่ที่มีความชื้นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งควรเลือกใช้แบตเตอรี่ ที่ได้รับมาตรฐาน มอก. จาก สมอ.หรือ สำนักงานมาตรฐานอุตสาหกรรม เพื่อความปลอดภัยของผู้ใช้งาน
3. หลีกเลี่ยงการใช้แบตเตอรี่จนหมดบ่อยครั้ง
การใช้แบตเตอรี่จนหมดบ่อยๆ อาจทำให้เกิดความเสียหายภายในแบตเตอรี่ ควรใช้แบตเตอรี่จนถึงระดับที่เหมาะสมและชาร์จใหม่อย่างสม่ำเสมอ
4. ดูแลการชาร์จ
ควรใช้ที่ชาร์จที่เหมาะสมกับแบตเตอรี่ Li-ion ของคุณ ไม่ควรใช้ที่ชาร์จที่มีความแรงไฟฟ้าสูงกว่าที่ระบุ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เกิดความร้อนสูงและเสื่อมสภาพเร็ว
5. ทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่
หากขั้วแบตเตอรี่ที่สกปรกอาจทำให้การส่งกระแสไฟฟ้าลดลง ควรทำความสะอาดขั้วแบตเตอรี่ด้วยผ้านุ่มและแอลกอฮอล์เป็นระยะเพื่อให้แน่ใจว่าการเชื่อมต่อดีอยู่เสมอ
6. สังเกตสัญญาณเสื่อมสภาพ
หากพบว่าแบตเตอรี่มีการบวม หรือมีอุณหภูมิสูงผิดปกติ ควรหยุดใช้งานทันทีและเปลี่ยนแบตเตอรี่ใหม่ เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้น
สรุป
การดูแลรักษาแบตเตอรี่ Li-ion ไม่ใช่เรื่องยาก แต่ต้องมีความใส่ใจและความรู้ในการใช้งานอย่างถูกต้อง รวมถึงมองหาสัญลักษณ์ที่ได้มาตรฐาน ตามแต่ละประเทศ
การดูแลแบตเตอรี่ของคุณอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานและเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของเครื่องมือช่างให้ดีที่สุด